lockscore ทำงานได้ดีกว่าบนแอพ
เพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า ติดตั้งแอพพลิเคชั่น lockscore เพื่อทำให้คุณไม่พลาดข่าวสาร และบอลสดทุกคู่ กดติดตั้งเลย

ติดตั้ง
obj
obj

คอลัมน์บอล

ตำนานลูกหนัง : สมัยค้าแข้ง ‘รูเบน อโมริม’ เก่งแค่ไหน?!

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า รูเบน อโมริม เป็นผู้จัดการทีมที่เก่งกาจขนาดไหน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ากว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นโค้ช ก่อนหน้านั้นบนเส้นทางอาชีพการค้าแข้ง เจ้าตัวต้องผ่านอะไรมาบ้าง


อดีตกองกลางทีมชาติโปรตุเกส ใช้เวลาเกือบตลอดชีวิตค้าแข้งอยู่ในประเทศบ้านเกิด โดยเจ้าตัวผ่านการลงเล่นให้กับ เบเลเนนส์, เบนฟิก้า และ บราก้า จนกระทั่งปีสุดท้ายในฤดูกาล 2015/16 เขาได้ย้ายไปวาดลวดลายให้กับ อัล-วาคราห์ ในประเทศกาตาร์ อยู่ครึ่งซีซั่น และจากนั้นก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ ซึ่งเรื่องราวของกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้างนั้น ติดตามอ่านต่อได้ที่นี่เลยครับ


คิดแล้วลงมือทำ!


ก่อนจะไปติดตามเรื่องราวของ รูเบน อโมริม กันต่อ ตอนนี้ LS Sport เพิ่มเกมตอบคำถามแฟนบอลพันธุ์แท้รายวัน และเกมโหวตทายผล ลุ้นรับไอเทมนักเตะระดับตำนานแบบไม่ต้องเติมเงินสักบาทเลย! ก็อย่าลืมรีบไปตุนเหรียญ-เก็บเลเวลกันก่อนหมดเขตนะครับ


กุนซือฉายา ‘พี่เจ๋ง’ เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 1985 ในกรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นักเตะซูเปอร์สตาร์เพื่อนร่วมชาติลืมตาดูโลก


เจ้าตัวได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 2003 ให้กับ เบเลเนนส์ สโมสรในลีกดิวิชั่น 1 ของโปรตุเกส ก่อนที่จะยกรับมาอยู่กับ เบนฟิก้า ในช่วงซัมเมอร์ 2008 จากนั้นใช่เวลาส่วนใหญ่ลงเล่นในถิ่น เอสตาดิโอ ดา ลุซ โดยรับใช้สโมสรไปทั้งหมด 153 นัด ทำไป 6 ประตู กับอีก 14 แอสซิสต์


สมัยตอนที่ยังเป็นนักเตะนั้น อโมริม ลงเล่นในตำแหน่งกองกลางจอมทัพ โดยผลงาน และฟอร์มการเล่นของเขานั้นดีพอที่จะเป็นขุนพลทัพ ‘ฝอยทอง’ แต่ก็ไม่ได้เจ๋งพอที่ทั้งโลกจะต้องร้อง ‘อ๋ออออ’ เมื่อได้ยินชื่อเขา แล้วก็ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติโปรตุเกส ไปแค่ 14 แมตช์เท่านั้น


อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลที่น่าจดจำของเขานั้นก็ต้องเป็นซีซั่น 2014/15 ที่เจ้าตัวสามารถพา เบนฟิก้า คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในประเทศ ก่อนที่จะเจอกับปัญหาบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้า และถูกปล่อยไปให้ อัล-วาคราห์ใน กาตาร์ ยืมตัว แต่สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจแขวนสตั๊ด เมื่อปี 2017 ด้วยวัยเพียง 32 ปี หลังจากที่ต้องร้างสนามกว่าหนึ่งปี


อดีตมิดฟิลด์รายนี้แขวนสตั๊ดไปแบบเงียบ ๆ ในแดนตะวันออกกลาง จากนั้นก็เริ่มเส้นทางใหม่ที่ตัวเองตัดสินใจ และเลือกจากการคิดวิเคราะห์มาเป็นอย่างดี เพราะเจ้าตัวเชื่อว่าการเป็นโค้ชจะไม่ใช่แค่การหาเลี้ยงชีพ แต่มันจะเป็นงานที่ทำให้เขาเป็น ‘คนที่สมบูรณ์’ มากกว่าตอนไหน ๆ ในชีวิต


หลังจากโบกมือลาบนสนาม เขาตั้งใจฝึกฝน และเรียนงานโค้ชในสถาบันที่กรุงลิสบอน โดยเจ้าตัวลงเรียนปริญญาโท คณะมนุษย์ศาสตร์ ที่เป็นคลาสเรียนเดียวกับที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เคยเรียนตอนหนุ่ม ๆ


อโมริม ตั้งใจ และทุ่มเทกับการหาความรู้ในครั้งนี้มาก ๆ เมื่อเริ่มจริงจังก็เริ่มมีเป้าหมาย แน่นอนว่าโค้ชชาวโปรตุกีส ยุคใหม่ล้วนมี ‘เดอะ สเปเชียลวัน’ เป็นไอดอลด้วยกันทั้งนั้น และเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่กำลังพยายามเดินตามรอยความยิ่งใหญ่ให้ได้


อดีตแข้ง เบเลเนนส์ เริ่มงานคุมทีมเต็มตัวครั้งแรกกับ คาซ่า เปีย ทีมในระดับดิวิชั่น 3 ของบ้านเกิด โดยเข้ามาทำงานตอนกลางซีซั่น ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2019 เขาพาทีมชนะ 3 แพ้ 1 จาก 4 เกม ทำได้ถึง 17 ลูกและเสียไปแค่ 3 ประตูเท่านั้น


แต่งานแรกของเขาก็จบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าตัวโดนแบนจากการคุมทีมโดยไม่มีใบอนุญาตโค้ชตามกำหนด โดยโดนแบนถึง 1 ปี และสโมสรคาซ่า เปีย โดนลงโทษตัดแต้มถึง 6 คะแนน


ช่วงเวลาที่โดนแบน ถือเป็นช่วงเวลาที่เขาได้ไปเรียนอะไรต่าง ๆ และเคลียร์ตัวเองให้จบ ซึ่งมันก็เป็นไปตามกำหนดการ จากนั้น 1 ปี เขามีโอกาสได้รับงานกับ เบนฟิก้า ชุดยู-23 (เล่นในดิวิชั่น 3 ของลีก) แต่หลังจากเข้าไปคุยรายละเอียดแล้ว เขาก็ตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม


กลางเดือนกันยายนปี 2019 บราก้า ก็เป็นอีก 1 ทีมเก่าของเขาที่ติดต่อมาให้เขารับงานชุดยู-23 (ดิวิชั่น 3 ของลีก) เขาทำงานที่นี่ได้แค่ 3 เดือน และบอกว่ารู้สึกไม่ค่อยถูกใจนัก เหมือนกับคนจบมาแล้วทำงานไม่ตรงสาย แม้จะทำได้ดีแต่ก็ไม่อยากเสียเวลาทำต่อ โชคยังดีที่สโมสรเห็นแวว และเป็นช่วงเวลาที่ ริคาร์โด้ ซา ปินโต โค้ชของสโมสรชุดใหญ่โดนไล่ออกพอดี อโมริม จึงได้เริ่มงานแรกอย่างจริงจัง จากนั้นฝีมือของเขาก็เริ่มกระฉ่อนไปทั่วประเทศ


ระยะเวลาเพียง 1 เดือนกับ บราก้า เขาพาทีมคว้าเเชมป์ลีกคัพ ทันที ด้วยการชนะ เอฟซี ปอร์โต้ นอกจากได้ถ้วยแล้ว เขายังพาสโมสรที่เดิมทีอยู่อันดับ 8 กลับมาจบอันดับ 3 เท่านี้ก็พอแล้วที่จะทำให้กุนซือหนุ่มคนนี้เนื้อหอมขนาดหนัก จนถูกทำให้สโมสรยักษ์ใหญ่ของโปรตุเกส อย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน ดึงตัวให้ไปคุมทีม โดยจ่ายเงินค่าฉีกสัญญาถึง 10.5 ล้านปอนด์


วงการฟุตบอลโปรตุเกส ไม่มีการฉีกสัญญาครั้งไหนแพงขนาดนี้มาก่อน แต่ถ้าจะถามว่า สปอร์ติ้ง คุ้มหรือไม่ ให้ดูที่ทำเนียบแชมป์ก็ได้ อโมริม คุมทีมอยู่ราว ๆ 3 ปีครึ่ง แต่พาทีมคว้าเเชมป์ฟุตบอลลีก 2 สมัย ฟุตบอลถ้วยในประเทศอีก 3 สมัย 


และนี่แหละเป็นเหตุผลที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ดึงตัวเขาไปนั่งเก้าอี้กุนซือแทน เอริค เทน ฮาก 


ถึงแม้ว่า รูเบน อโมริม จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากพา ‘ปีศาจแดง’ ไม่แพ้ใครมา 3 นัดติดต่อกัน แต่คืนนี้พวกเขาต้องบุกไปเยือน อาร์เซน่อล ที่กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง ซึ่งผลสกอร์จะออกมาในรูปแบบไหน เรามาคอยติดตามไปด้วยกัน


เขียนโดย LS Sport 

ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง




ติดตามข่าวสารฟุตบอลต่างประเทศและคอลัมน์ฟุตบอล ข้อมูลเที่ยงตรง เข้าถึงข้อมูลร้อนเร็วทันเหตุการณ์จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ รายละเอียดเกี่ยวกับเกม ผลการแข่งขัน, สถิติของทีม, ข่าวเกี่ยวกับนักเตะและทีมรัก, ทรรศนะ และบทวิเคราะห์, และข้อมูลอื่น ๆ จากทีมชั้นนำจากทั่วโลก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน, ยูเวนตุส และอื่นๆ อีกมากมาย ข่าวสารบอล ต้องเว็บไซค์ของคนบ้าบอล ข่าวสดยุคใหม่ 24 ชั่วโมง ต้อง lockscore.com เท่านั่น

icon
icon

0'

Aston Villa

1

icon

Leeds United

2

icon LIVE NOW